เท้าแบน คืออะไร?

อาการเท้าแบน คือการที่อุ้งเท้ายุบตัวลงจนเกือบจะแนบชิดกับพื้นดิน หรืออุ้งเท้าที่สูญเสียความโค้งของอุ้งเท้าตามธรรมชาติไป อาการเท้าแบนเกิดขึ้นได้กับทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก

เท้าแบน คืออะไร?

อาการเท้าแบน คือการที่อุ้งเท้ายุบตัวลงจนเกือบจะแนบชิดกับพื้นดิน หรืออุ้งเท้าที่สูญเสียความโค้งของอุ้งเท้าตามธรรมชาติไป อาการเท้าแบนเกิดขึ้นได้กับทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก

ลักษณะของเท้าที่แบน

ลักษณะของเท้าปกติ

อาการของคนเท้าแบนเป็นอย่างไร?

  • ปวดส้นเท้า

  • ปวดฝ่าเท้า หรือฝ่าเท้าล้าเป็นพิเศษ

  • ปวดน่อง

  • ปวดสะโพก

  • ปวดเข่า

  • ปวดหลังส่วนเอว

ลักษณะของเท้าที่แบน

ลักษณะของเท้าปกติ

อาการของคนเท้าแบนเป็นอย่างไร?

  • ปวดส้นเท้า

  • ปวดฝ่าเท้า หรือฝ่าเท้าล้าเป็นพิเศษ

  • ปวดน่อง

  • ปวดสะโพก

  • ปวดเข่า

  • ปวดหลังส่วนเอว

สาเหตุของอาการเท้าแบนคืออะไร?

อาการเท้าแบนมีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการ เช่น กรรมพันธุ์ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา โรคข้ออักเสบ
โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เอ็นร้อยหวายฉีกขาด น้ำหนักตัวที่เยอะเกินไป
การตั้งครรภ์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดก็คือ
การเดินบนพื้นที่แข็งเป็นเวลานาน ๆ

สาเหตุของอาการเท้าแบนคืออะไร?

อาการเท้าแบนมีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการ เช่น กรรมพันธุ์ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา โรคข้ออักเสบ โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เอ็นร้อยหวายฉีกขาด น้ำหนักตัวที่เยอะเกินไป การตั้งครรภ์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดก็คือ การเดินบนพื้นที่แข็งเป็นเวลานาน ๆ

โดยธรรมชาติแล้ว อุ้งเท้าของเราถูกสร้างขึ้นมาให้มีความโค้งเว้า (arch) เพื่อช่วยในการเกาะพื้นดินได้ดียิ่งขึ้น ไม่ลื่นเวลาเดินเท้าเปล่า (สังเกตได้จากเวลาที่เราไปเดินบนชายหาด ผู้ที่มีอุ้งเท้าปกติจะเดินบนหาดทรายได้มั่นคงกว่าผู้ที่มีเท้าแบน) ในทางกลับกัน พื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทรายที่มีความนุ่ม ก็จะช่วยซัพพอร์ตอุ้งเท้าเราตามธรรมชาติด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ส่วนโค้งเว้า (arch) ของอุ้งเท้าจะทำให้แรงกดจากน้ำหนักตัวเราไปรวมศูนย์กันที่ฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า (สังเกตได้จากรอยเท้าเราบนหาดทราย ที่จมลึกสุดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าและทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าต้องรองรับภาระน้ำหนักตัวมากเป็นพิเศษนั้น พื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทรายที่นุ่มจมลงไปตามรูปร่างของฝ่าเท้า ก็จะคอยรองรับอุ้งเท้าและกระจายแรงกดจากน้ำหนักตัวไปให้ทั่วฝ่าเท้าเราด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระการรับน้ำหนักตัวของฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าของเราแล้ว ยังทำให้สรีระร่างกาย (body posture) ของเราถูกต้องเป็นสมมาตรตามที่ควรจะเป็นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน พื้นดินและพื้นทรายได้ถูกแทนที่ด้วยพื้นคอนกรีต หมายความว่า เท้าของเราจะไม่มีตัวช่วยใด ๆ จากธรรมชาติมาคอยซัพพอร์ตอุ้งเท้าเราอีกต่อไป อุ้งเท้าของเราจึงมีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงเรื่อย ๆ (collapsed arch) จนทำให้เราอาจจะกลายเป็นคนเท้าแบนในที่สุด

โดยธรรมชาติแล้ว อุ้งเท้าของเราถูกสร้างขึ้นมาให้มีความโค้งเว้า (arch) เพื่อช่วยในการเกาะพื้นดินได้ดียิ่งขึ้น ไม่ลื่นเวลาเดินเท้าเปล่า (สังเกตได้จากเวลาที่เราไปเดินบนชายหาด ผู้ที่มีอุ้งเท้าปกติจะเดินบนหาดทรายได้มั่นคงกว่าผู้ที่มีเท้าแบน) ในทางกลับกัน พื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทรายที่มีความนุ่ม ก็จะช่วยซัพพอร์ตอุ้งเท้าเราตามธรรมชาติด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ส่วนโค้งเว้า (arch) ของอุ้งเท้าจะทำให้แรงกดจากน้ำหนักตัวเราไปรวมศูนย์กันที่ฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า (สังเกตได้จากรอยเท้าเราบนหาดทราย ที่จมลึกสุดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าและทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าต้องรองรับภาระน้ำหนักตัวมากเป็นพิเศษนั้น พื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทรายที่นุ่มจมลงไปตามรูปร่างของฝ่าเท้า ก็จะคอยรองรับอุ้งเท้าและกระจายแรงกดจากน้ำหนักตัวไปให้ทั่วฝ่าเท้าเราด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระการรับน้ำหนักตัวของฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้าของเราแล้ว ยังทำให้สรีระร่างกาย (body posture) ของเราถูกต้องเป็นสมมาตรตามที่ควรจะเป็นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน พื้นดินและพื้นทรายได้ถูกแทนที่ด้วยพื้นคอนกรีต หมายความว่า เท้าของเราจะไม่มีตัวช่วยใด ๆ จากธรรมชาติมาคอยซัพพอร์ตอุ้งเท้าเราอีกต่อไป อุ้งเท้าของเราจึงมีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงเรื่อย ๆ (collapsed arch) จนทำให้เราอาจจะกลายเป็นคนเท้าแบนในที่สุด

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นคนเท้าแบนหรือไม่?

นอกจากอาการที่พบบ่อย ๆ ดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว เราสามารถตรวจเช็คเพิ่มเติมได้ ว่าเราเป็นคนเท้าแบนหรือไม่ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้
  • เอาเท้าจุ่มน้ำให้เปียกหมาด ๆ แล้วเหยียบลงบนพื้นแห้งที่ซึมน้ำได้ เช่นบริเวณริมสระว่ายน้ำ หรือกระดาษ หากรอยเท้าที่เห็นมีรูปร่างลักษณะดัง ภาพนี้ ก็แสดงว่า คุณเป็นคนเท้าแบนค่ะ

  • หันข้างวางเท้าตรง ๆ แล้วส่องกระจก เพื่อดูอุ้งเท้าด้านใน

  • ใช้เครื่องสแกนเท้าจากร้านรองเท้าที่มีเครื่อง ผลการตรวจสอบจะละเอียดเที่ยงตรงกว่า แต่ผลสรุปจะไม่ต่างกันกับ 2 วิธีแรกมากนัก

แล้วจะรักษาอาการเท้าแบนอย่างไรดี?

วิธีการรักษาที่แพทย์แนะนำคือ การใช้แผ่นเสริมปรับสภาพเท้า (orthotics/insoles) หรือ รองเท้าเพื่อสุขภาพที่มีส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้า (arch support) และอาจจะมีการยืดคลายเส้นด้วยวิธีต่อไปนี้

วิธียืดเส้นส่วนน่องและเอ็นร้อยหวาย

วิธียืดเส้นแบบ Downward Dog

ซึ่งวิธีเหล่านี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะเท้าดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีเท้าปกติ เท้ายังไม่แบน แต่ต้องการหาทางป้องกันไว้ก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมารักษาทีหลัง ซึ่งจะรักษายากและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

  • ผู้ที่เท้าเริ่มแบน แต่ยังไม่แบนมาก

  • ผู้ที่เท้าแบน หรือค่อนข้างแบน ซึ่งทางแบรนด์ Klas & Sylph เองก็มีรองเท้าบางรุ่นที่ผลิตมาเพื่อให้การปรับเท้าเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เท้าบิดเข้าด้านในไปมากแล้ว และ/หรือ มีอาการเจ็บปวดเป็นพิเศษ ท่านอาจจะต้องไปพบแพทย์ด้านออโธปิดิกส์ (orthopedics) เพื่อรับคำแนะนำอย่างละเอียด เพราะในบางกรณี ท่านอาจจะต้องทำกายภาพบำบัดประกอบ หรืออาจจะต้องเข้ารับทำการผ่าตัด ดังนั้นผู้ที่มีเท้าแบน แต่ยังไม่ได้มีอาการเจ็บปวดถึงขนาดต้องเข้ารับการผ่าตัด ก็หันมาดูแลตัวเองโดยใช้รองเท้าสุขภาพ หรือแผ่นรองเท้าที่มีส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้าช่วยในการปรับรูปเท้าและสรีระของร่างกาย ประกอบกับการยืดเส้นเป็นประจำกันดีกว่านะคะ เป็นการป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ต้องเข้ารับการรักษาในภายหลังค่ะ 😃